กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลตองคุ อ.อุ้มผาง จ.ตาก



          เมื่อวันที่  21 ธันวาคม 2563  เวลา 10.27 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลตองคุ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก

            ในการนี้ ทรงเปิด "อาคาร 107 ปี ธนาคารออมสิน" เป็นอาคารชั้นเดียว ซึ่งธนาคารออมสินสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้าง เพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอนของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลตองคุ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

            จากนั้น ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตาม "แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริฯ" ซึ่งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลตองคุ นี้ อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 เปิดสอนตั้งแต่ปี 2533 ตั้งแต่ระดับปฐมวัย ถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีครูตำรวจตระเวนชายแดน 7 นาย ครูอัตราจ้าง 7 คน มีนักเรียน 436 คน โดยนักเรียนเป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอและจากประเทศเพื่อนบ้านที่ติดตามผู้ปกครองที่เดินทางมาประกอบอาชีพเข้าศึกษาด้วย             

            โอกาสนี้ ทรงติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโรงเรียนโมโกรวิทยาคม ที่มีพระราชดำริให้จัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2562 เพื่อเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำตำบลโมโกร เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียน ซึ่งเดิมมีเพียงโรงเรียนอุ้มผางวิทยาคมแห่งเดียวในพื้นที่ 

            ที่ผ่านมา โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเลตองคุ ได้จัดการเรียนการสอนเพื่อให้เด็กสามารถอ่านออก เขียนได้และสามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร มีการเพิ่มตารางเรียนวิชาที่นักเรียนไม่ถนัด เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาดีขึ้น เช่น การสอนวิชาภาษาอังกฤษสู่เทคโนโลยี บูรณาการร่วมกับภาษาไทยและภาษาท้องถิ่น เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจ โดยเชื่อมโยงผ่านการใช้เทคโนโลยี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์และระบบโทรมาตร ให้มีไฟฟ้าเพียงพอสำหรับใช้งานระบบอินเทอร์เน็ต โทรคมนาคมและห้องไอซีที สำหรับการเรียนการสอน ทั้งมีการขยายผลไปสู่ชุมชนด้วย เพื่อให้ทุกคนในพื้นที่สามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้

            นอกจากนี้ ยังดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยยึดหลักให้นักเรียนมีส่วนร่วม ผ่านการพัฒนาอาชีพ สังคม ชุมชนและทักษะชีวิต เช่น การส่งเสริมกิจกรรมทอผ้า การทำอิฐบล็อกและการเย็บผ้า ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ซื้อจักรเย็บผ้า จำนวน 10 เครื่อง เพื่อสอนนักเรียนในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้าทอและการแปรรูปอาหาร เช่น ยำถั่วมะแฮะ น้ำพริกเผาถั่วมะแฮะ ซึ่งสามารถนำความรู้ไปต่อยอดใช้ประโยชน์ในอนาคต

            ในส่วนของโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการเพิ่มพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกผัก ไม้ผลและเลี้ยงปลากินพืช โดยมีสถาบันวิจัยพัฒนาพื้นที่สูง เข้าไปส่งเสริมการปลูกไม้ผลเมืองหนาว เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากยิ่งขึ้น เป็นการส่งเสริมให้มีทักษะทางการเกษตรอย่างยั่งยืนในการผลิตอาหารเพื่อการบริโภค

            โรงเรียนฯ ยังได้ดำเนินโครงการสุขศาลาพระราชทาน ให้บริการด้านสุขภาพและการส่งต่อผู้ป่วยในพื้นที่ โดยมีครูพยาบาลคอยให้การดูแลในเบื้องต้นและมีเจ้าหน้าที่จากสถานีอนามัยเข้ามาประจำทุกวัน เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการและประสานส่งต่อโรงพยาบาลที่มีความเหมาะสมต่อไป

          ในการนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ออกหน่วยให้บริการตรวจโรคทั่วไปแก่ประชาชน โดยมีผู้ไปรับบริการรวมจำนวน 453 คน แบ่งเป็น เด็กนักเรียน 438 คน  ประชาชนทั่วไป  15 คน  ส่วนใหญ่ป่วยเป็นโรคผิวหนัง รองลงมาคือกล้ามเนื้อและกระดูก โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์บดินทร์  บุตรธรรม  รองคณบดีฝ่ายบริหารและพัฒนานวัตกรรม  คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้กล่าวถวายรายงาน พร้อมทีมแพทย์  พยาบาล และเภสัชกร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมเข้าเฝ้ารับเสด็จฯ และร่วมออกหน่วยแพทย์พระราชทานครั้งนี้ด้วย

     


    เพิ่มข้อมูลเมื่อ : 24/12/2020 16:54 น.