โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ก้าวสู่เครือข่ายจัดเก็บสารพันธุกรรมแห่งที่ 30 หนุนสิทธิสุขภาพเพื่อคนไทยทุกคน



    วันพุธที่ 17 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุม CC2-801 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิด การประชุมเชิงปฏิบัติการสนับสนุนโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร สู่การเป็น โรงพยาบาลเครือข่ายจัดเก็บสารพันธุกรรมแห่งที่ 30 เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก

    การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนที่มีปัญหาสิทธิสถานะ สามารถเข้าถึง บริการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิสูจน์ตัวตนและปัญหาสถานะทางทะเบียน สนับสนุนให้ได้รับสิทธิพื้นฐาน เช่น การรักษาพยาบาล การศึกษา การทำงาน และสวัสดิการจากรัฐอย่างเท่าเทียม

    หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือ พิธีมอบสัญลักษณ์ “โรงพยาบาลเครือข่ายหน่วยเก็บสิ่งส่งตรวจสารพันธุกรรมดีเอ็นเอ” โดย นางสาววรรณา แก้วชาติ ตัวแทนจาก เครือข่ายคณะทำงานคนไทยไร้สิทธิ ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายหลักที่ร่วมขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการคืนสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นพลเมืองไทยให้กับผู้ที่เคยถูกหลงลืม

    นอกจากนี้ ยังมีการจัด ฝึกภาคปฏิบัติการจัดเก็บสิ่งส่งตรวจสารพันธุกรรมดีเอ็นเอ เพื่อเสริมทักษะให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้อง โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคนิคการจัดเก็บตัวอย่างอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในกระบวนการตรวจพิสูจน์ และสามารถนำไปปฏิบัติงานได้จริงในพื้นที่

    โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ภายใต้ บันทึกความร่วมมือในการพัฒนาการเข้าถึงสิทธิหลักประกันสุขภาพของคนไทยที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียน โดยมี สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย   กระทรวงยุติธรรม  กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม

    การประชุมในวันนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนผู้มีปัญหาทางสิทธิสถานะ มีโอกาสได้ก้าวแรกในการเข้าถึงระบบบริการภาครัฐและสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และยั่งยืน นับเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนความเสมอภาคในสังคม


    เพิ่มข้อมูลเมื่อ : 17/09/2025 19:57 น.