(ดู 1,138 ครั้ง)
อาจารย์ นายแพทย์ณัฐพงศ์ แสงปัดสา ประสาทศัลยแพทย์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยถึงกรณีรับส่งตัวผู้ป่วยชายอายุ 14 ปี จากโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ มาด้วยอุบัติเหตุถูกฉมวกแทงปลาแทงบริเวณแก้มซ้ายและทะลุไปยังกระดูกสันหลังส่วนคอซ้ายว่า
“เนื่องจากฉมวกที่แทงใบหน้าเป็นโลหะ ทางโรงพยาบาลในพื้นที่วินิจฉัยแล้วว่าต้องส่งต่อเพื่อเอกซเรย์ด้วยเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล เพื่อวางแผนการผ่าตัด รักษาช่วยชีวิตผู้ป่วย โดยทีมอาจารย์แพทย์เฉพาะทาง รพ.ม.นเรศวร
ทางทีมประสาทศัลยแพทย์ ทีมศัลยแพทย์ตกแต่ง และสหสาขาวิชาชีพ ได้ร่วมกันทำการผ่าตัดผู้ป่วยเด็กรายนี้ โดยได้ทำการเอกซเรย์หลอดเลือดด้วยเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล เพื่อหาตำแหน่งว่าฉมวกที่แทงเข้าบริเวณแก้มไปถูกหลอดเลือด เส้นประสาท หรือไขสันหลังส่วนสำคัญ ที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตหรือไม่
ทั้งนี้จากการเอกซเรย์พบว่า ฉมวกดังกล่าว อยู่ติดกับหลอดเลือดแดงใหญ่ไปเลี้ยงสมองและปักไปยังกระดูกสันหลังส่วนคอข้อแรกด้านซ้ายทำให้ทีมผ่าตัดต้องระมัดระวังในการผ่าตัดอย่างมาก เนื่องจากหากผิดพลาดเพียงนิดเดียวจะส่งผลทำให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง เส้นประสาท หรือไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจะส่งผลต่อความพิการและเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ทางทีมผ่าตัดสามารถดำเนินการผ่าตัดเป็นไปด้วยความราบรื่น และส่งกลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลต้นสังกัด อย่างไรก็ตามแผนการรักษาจะต้องนัดมาเอกซเรย์และติดตามอาการอีก ว่ามีการติดเชื้ออื่น ๆ หรือไม่ ที่จะทำให้เกิดเป็นอันตรายหลังการผ่าตัด”
ด้านทีมศัลยแพทย์ตกแต่ง นำโดย ผศ.นพ.ศรัณย์ วรศักดิ์วุฒิพงษ์ ผู้อำนวยการสถานรักษาแก้ไขภาวะปากแหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า ม.นเรศวร หนึ่งในทีมผ่าตัดกล่าวว่า “ความยากของเคสนี้คือฉมวกแทงลงไปลึกมาก เบื้องต้นพบว่าทะลุใบหน้าลึกลงไปถึงกระดูกสันหลังส่วนคอ ทางทีมศัลยแพทย์ระบบประสาทได้ฉีดสีหลอดเลือดเข้าไปดูพบว่าไม่โดนเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เราสามารถเอาออกได้ง่ายโดยเพียงแค่ตัดกรอกระดูกขากรรไกรล่างเท่านั้น ไม่ต้องผ่าเปิดตามเส้นทางที่ฉมวกแทงเข้าไปเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้แผลกว้างใหญ่และลดความเสี่ยงการบาดเจ็บต่ออวัยวะอื่นเพิ่มเติมได้อีก”
อาจารย์แพทย์ทั้งสองท่าน อยากจะฝากถึงประชาชนว่า หากเกิดกรณีเช่นนี้กับตนเอง หรือกับใคร อย่างแรกต้องตั้งสติก่อน อย่าดึงออกทันทีเพราะจะทำให้ไปโดนหลอดเลือดหรือเส้นประสาททำให้เสียชีวิตได้ ต้องพยายามทำตัวให้นิ่งทำให้สิ่งที่ทิ่มแทงอยู่นั้นอยู่กับที่ไม่ขยับมากที่สุด และพาผู้ป่วยมาโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้ครับ ในกรณีนี้ผู้ใช้เป็นเด็กอาจยังไม่มีความรู้ ความชำนาญพอ อยากให้ผู้ปกครองได้เก็บเครื่องมือนี้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุเช่นกรณีนี้
อย่างไรก็ตามเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล ได้ใช้มาเป็นเวลากว่า 15 ปี แล้ว มีความเสื่อมตามกาลเวลาถึงแม้จะยังใช้ได้ แต่ปัจจุบันเครื่องมือรุ่นใหม่ มีความทันสมัย สามารถถ่ายภาพหลอดเลือดได้อย่างแม่นยำชัดเจนยิ่งกว่าเดิมมาก ทำให้แพทย์รักษาผู้ป่วยได้ตรงจุด และรักษาได้หลายโรค ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคมะเร็งบางชนิด หรือแม้กระทั่งกรณีฉุกเฉินเช่นนี้ เครื่องนี้ก็สามารถช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ จึงอยากขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาได้ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อเครื่องเอกซเรย์หลอดเลือดระบบดิจิตอล (Biplane Digital Subtraction Angiography) ทดแทนเครื่องเดิม สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 06 1267 1572 หรือ 09 4424 5342